สารสกัดจากถั่วหมัก นัตโตะหรือถั่วเน่าญี่ปุ่น สารอาหารที่ช่วยล้างหลอดเลือด และป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
ภาวะโรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis)
เป็นโรคที่หลอดเลือดแดงอักเสบ จนทำให้หลอดเลือดแดงแข็ง หรือตีบตัน ส่งผลให้เลือด และออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียงไม่เพียงพอ เป็นโรคที่ค่อยๆ เกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป จากไขมัน หรือแคลเซียมที่ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ในหลอดเลือดซึ่งอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย เช่น มีไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดสูง ความดันโลหิตสูงตั้งแต่ 140/90 โรคเบาหวาน ภาวะดื้ออินซูลินโรคอ้วน การสูบบุหรี่เป็นประจำ การที่มีภาวะอักเสบในร่างกายสูง ในคนสูงอายุการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งจะมีมากขึ้น โดยเฉพาะเพศชายอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป และเพศหญิงอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป ความเครียด การขาดการออกกำลังกาย และพันธุกรรม
สารอาหารที่ช่วยล้างหลอดเลือด และป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ได้แก่
สารสกัดจากถั่วหมัก หรือนัตโตะหรือถั่วเน่าญี่ปุ่น
ซึ่งถูกใช้เป็นยาพื้นบ้านสำหรับโรคหัวใจ และหลอดเลือดมาแต่โบราณในประเทศญี่ปุ่น โดยการนำถั่วเหลืองไปนึ่ง แล้วหมักด้วยจุลินทรีย์บาซิลลัส สับทิลิส (Bacillus Subtilis)ก่อให้เกิดสารชีวภาพหลายชนิด ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะเอนไซม์นัตโตะไคเนส (Nuttokinase) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด ช่วยละลายลิ่มเลือด ลดภาวะเลือดหนืด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ปรับสมดุลความดันโลหิตและปรับสมดุลไขมันในเลือด ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือดลดการตีบตันในเส้นเลือด ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการต่างๆ ของโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือด และหัวใจ ป้องกันการเกิดลิ่มเลือด เส้นเลือดอุดตันได้เป็นอย่างดี
ในนัตโตะมีวิตามิน K2 ในปริมาณมาก วิตามิน K ในธรรมชาติ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ วิตามิน K1 (Phylloquinone)เป็นวิตามิน K ที่ได้จากผักใบเขียว มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด และวิตามิน K2(Menaquinone) ได้จากเนื้อสัตว์ ไข่แดงและนัตโตะ หรือถั่วเน่าญี่ปุ่น วิตามิน K2มีบทบาทสำคัญในการป้องกันแคลเซียมเกาะหลอดเลือด และเนื้อเยื่อ และมีงานวิจัยในสัตว์ทดลอง ว่าช่วยสลายแคลเซียมที่เกาะหลอดเลือด และเนื้อเยื่อได้ นอกจากนี้ ยังช่วยบำบัดภาวะกระดูกพรุนได้
วิตามิน K1 ได้จากผักใบเขียว มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด
วิตามิน B1 ช่วยเพิ่มพลังกาย และช่วยให้ร่างกายนำพลังงานจากอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต และโปรตีนมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยให้การเผาผลาญพลังงานในร่างกายสมบูรณ์ และลดความเครียด
วิตามิน B2 สามารถช่วยลดระดับสารโฮโมซิสเทอีนในเลือด ซึ่งเป็นสารที่บ่งชี้ถึงภาวะความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งโรคหลอดเลือดอุดตัน โรคอัลไซม์เมอร์ รวมถึงยังเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะกระดูกหักในผู้สูงอายุ
วิตามิน B3 ช่วยลดระดับไขมันโคเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจจากภาวะโคเลสเตอรอลสูง และรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ
วิตามิน B5 มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย และการพัฒนาของระบบประสาทส่วนกลางมีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานของต่อมหมวกไต ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน และมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนไขมัน และน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงาน
วิตามิน B6 ทำงานร่วมกับกรดโฟลิกในการลดระดับโฮโมซิสเทอีนในเลือดลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
วิตามิน B12 ช่วยเปลี่ยนสารอาหารที่รับประทานเข้าไปให้อยู่ในรูปของกลูโคส เพื่อเป็นแหล่งพลังงานในร่างกาย เสริมการทำงานของระบบประสาท และไขสันหลัง ช่วยในกระบวนการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงป้องกันการเกิดภาวะโลหิตจาง จากเม็ดเลือดมีขนาดใหญ่ผิดปกติ ช่วยสร้างไขกระดูก
กรดโฟลิก ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงควบคุมการทำงานของสมอง และมีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์โปรตีน
References :
- Geleijnse JM1 et. al . Dietary intake of menaquinone is associated with a reduced risk of coronary heart disease: the Rotterdam Study. J Nutr. 2004 Nov;134(11):3100-5.
- Gropper, S; Smith, J (2009). Advancednutrition and human metabolism. Belmont, CA: Cengage Learning.
ผลิตภัณฑ์แนะนำ : โซย่า พลัซ (30 แคปซูล)